Tuesday, June 30, 2015

Presentation ทำสไลด์พรีเซนท์ยังไงให้เจ๋ง สื่อสารตรงจุด

Presentation
ทำสไลด์พรีเซนต์ยังไงให้เจ๋ง สื่อสารตรงจุด
เคล็ดลับจาก TED



ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทำ Presentation นั้นเป็นเรื่องที่เป็นหน้าเป็นตาให้แก่บริษัทมาก... และถ้าคุณทำงานออกมาดีแค่ไหน แต่ถ้าสกิลการนำเสนอไม่ดึงดูดก็สามารถทำให้สินค้าหรืองานนั้นๆ ดู Drop ลงไปได้เลยนะ ดังนั้นเราจึงชวนมาแก้และเพิ่มรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการทำสไลด์ของคุณให้ลงตัว สวยงาม และสื่อสารตรงจุด ถ้ามีครบทั้ง 3 อย่างนี้ ก็จะทำให้งานที่ต้องการจะขายยิ่งเปล่งออร่าออกมาเลยล่ะ

1. คิดก่อนว่าทำสไลด์มาเพื่ออะไร
คิดถึงแมสเสจ หรือใจความสำคัญที่ต้องการสื่อกับผู้ชม โครงสร้างของมันจะเป็นส่วนที่สนับสนุนไอเดียของคุณ ซึ่งพรีเซนเทชั่นที่ดีจะต้องสื่อสารด้วยตัวของมันเองได้ 

2. ทั้งสไลด์จะต้องดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
หมายถึงการตกแต่งสไลด์ที่เป็นรายละเอียดต่างๆ เช่น ฟ้อนท์ตัวอักษรคล้ายๆ กัน สี และรูปภาพในแต่แผ่น 

3. คิดถึงการเปลี่ยนสไลด์ในแต่ละหน้าด้วย
มันดีที่แต่ละสไลด์จะมีความคล้ายคลึงกัน แต่คงไม่ดีแน่ถ้าแต่ละสไลด์นั้นเหมือนกันจนเกินไป ซ้ำซากจนเกิดความน่าเบื่อ เราสามารถทำสไลด์ที่อยู่ในหัวข้อเดียวกันให้มีความคล้ายกัน แล้วพอจะเปลี่ยนหัวข้อก็เปลี่ยน Transition เข้าสู่อีกแบบหนึ่ง เพื่อให้ผู้ชมได้รู้ถึงความต่างด้วย ว่าเรากำลังเปลี่ยนหัวข้อแล้ว เป็นการใช้ภาพเคลื่อนไหวช่วยทำให้ผู้ชมมีความรู้สึกที่ต่างออกไป

4. ตัวหนังสือที่ต้องระวัง
สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดคือ สไลด์ที่มีตัวหนังสือเต็มไปหมด! โดยเฉพาะเวลาที่คุณพรีเซนท์แล้วพูดเหมือนกับในสไลด์นั้น อาจทำให้เหมือนกับเรานำโพยกระดาษไปพูดหน้าชั้นเรียนซึ่งไม่ดีแน่ เพราะผู้ชมไม่อาจฟังไปพร้อมๆ กับอ่านในสไลด์ของคุณได้ ดังนั้นควรโฟกัสที่ใจความสำคัญ... อยู่ที่คำพูดของคุณหรือในสไลด์ ควรเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง

5. ใช้รูปภาพสื่อความหมาย

รูปภาพง่ายๆ และสื่อความหมายตรงประเด็นนั้นดีที่สุดแล้ว เพราะมันสามารถช่วยให้ผู้ชมเข้าใจคำพูดที่คุณอธิบายออกมาได้เห็นภาพมากขึ้นโดยที่ไม่แย่งความสนใจไปจากคำพูดของคุณอีกด้วย คุณอาจใช้รูปภาพที่สื่อความหมายโดยนัยก็ได้ แต่ก็ต้องชัดเจนพอที่จะให้ผู้ชมเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงต้องนั่งมองรูปนี้ (ไปพร้อมๆกับสิ่งที่คุณพูด) 

บางคนอาจทำได้ดีอยู่แล้ว สิ่งที่อยากจะเพิ่มก็คือ "การฝึกซ้อม" เพราะการพูดสด อารมณ์ และท่าทางในการพูดก็สำคัญไม่แพ้กัน 

การเตรียมตัว + วางแผน 
อาวุธชิ้นสำคัญในการขายงาน/ไอเดีย

..............................................................
Cr: http://blog.ted.com/

Sunday, June 28, 2015

Job Interview :: 10 คำตอบสวยๆ เวลาโดนสัมภาษณ์งาน ::

Job Interview
10 คำตอบสวยๆ เวลาโดนสัมภาษณ์งาน


TOP 10 คำถามสัมภาษณ์งานเราก็ได้เรียนรู้กันไปแล้ว คราวนี้มาถึงคำตอบสวยๆ กันบ้าง คำตอบนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละสายงาน และตัวตนของคุณเอง แต่เราจะมานำเสนอในแบบกลางๆ ที่จะสร้างความประทับใจให้ผู้สัมภาษณ์ได้นะคะ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการขายตัวเอง! เรามีดี และควรประกาศให้โลกรู้ โอเค๊ ^^

เมื่อให้บอกถึงตัวคุณ นอกจากประวัติแล้วก็ควรพูดถึงส่วนที่ดีของคุณ (ขายตัวเองเลย!) หรือประวัติที่ดีในการทำงาน อาจเล่าเหตุการณ์ที่คุณได้รับรางวัล หรือเรื่องดีๆ ที่จะทำให้ผู้สัมภาษณ์ประทับใจ
I am very outgoing, hardworking and honest.
ฉันเป็นคนเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ขยัน และซื่อสัตย์ค่ะ/ครับ

เมื่อถูกถามว่าคุณเหมาะกับงานนี้อย่างไร คุณสามารถหยิบยกภูมิหลังหรือประสบการณ์ที่คุณเคยทำมาเป็นเหตุผลประกอบได้ว่า ตำแหน่งที่สมัครไปนั้น คุณมีความเชี่ยวชาญ หรือเหมาะกับมันอย่างไร
I have a degree in design and lots of experiences of advertising.
ฉันจบการศึกษาทางด้านการออกแบบ และมีประสบการณ์มากมายทางด้านงานโฆษณาค่ะ/ครับ

เมื่อถูกถามถึงจุดอ่อน (บางจุดอ่อนถือเป็นเรื่องที่ฝึกฝน และพัฒนากันได้ แต่แน่นอนว่าจุดอ่อนที่กล่าวไป ไม่ใช่คุณสมบัติหลักที่บริษัทต้องการนะ)
I had a bit of trouble with presentation skill.
ฉันมีปัญหาในการนำเสนองานนิดหน่อยค่ะ/ครับ

จุดแข็งของเรา (ถึงเวลาขายตัวเองได้เต็มที่แล้วล่ะ)
My customer service  skills are excellent.
ทักษะการบริการลูกค้าของฉันนั้นยอดเยี่ยมมากเลยล่ะค่ะ/ครับ

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับบริษัทที่เราไปสมัคร (คุณควรทำการบ้านมาหน่อยสำหรับคำถามนี้ ว่าบริษัทที่สมัครไปนั้น ให้บริการทางด้านไหน เกี่ยวกับอะไร อย่างน้อยก็เป็นข้อมูลพื้นฐานที่จะทำให้เราทราบได้ว่า ควรเน้นคุณสมบัติด้านไหนออกมาให้ผู้สัมภาษณ์ได้รับฟัง)
Your company is the best in advertising and has a good reputation.
บริษัทของคุณเป็นที่หนึ่งทางด้านงานโฆษณาและยังมีชื่อเสียงที่ดีมากด้วยค่ะ/ครับ

ทำงานเป็นทีมหรือคนเดียวดีกว่า (แน่นอนว่าการทำงานย่อมมีทั้งด้านที่โซโล่ และทำงานเป็นทีม ส่วนมากนั้นคนจะมีปัญหากับการทำงานกับผู้อื่นมากกว่าทำคนเดียว ดังนั้นคุณควรแสดงให้บริษัทเห็นว่าคุณไม่ได้มีปัญหากับการเข้าสังคม หรือทางด้านมนุษยสัมพันธ์ในการทำงาน)
I like to work as a part of a team, because I can exchange attitude and ideas which useful for my work.
ฉันชอบทำงานเป็นทีมมากกว่า เพราะฉันจะสามารถแลกเปลี่ยนทัศนคติและไอเดียที่อาจมีประโยชน์ต่องานค่ะ/ครับ

เมื่อถูกถามว่าทำไมถึงออกมาจากงานที่เก่า ให้คุณพูดทางบวกเข้าไว้ (ถึงแม้ว่าที่เดิมจะแย่...แต่การไม่รื้อฟื้น หรือนำที่ทำงานเก่ามาเม้าท์ให้ที่ใหม่ฟังก็เป็นความคิดที่ดีกว่าจริงไหม :P)
I am looking for bigger challenges and new experiences.
ฉันอยากได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ และงานที่ท้าทายมากขึ้นค่ะ/ครับ

เมื่อถูกถามถึงเรื่องอนาคต (คำถามนี้คุณลองนึก จินตนาการไว้ก่อนเลยก็ได้ว่าคุณอยากจะทำอะไร แน่นอนว่าควรเป็นเรื่องของความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการ หรือตำแหน่งที่สูงในสายงานที่คุณสมัคร ซึ่งจะทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าคุณมีทัศนคติที่รักที่จะก้าวหน้า ทะเยอทะยาน ไม่ใช่ทำงานไปวันๆ หรือย่ำอยู่กับที่)
I want to see myself in a top management title in advertising company.
ฉันอยากเห็นตัวเองอยู่ในฝ่ายผู้จัดการในบริษัททางด้านโฆษณาค่ะ/ครับ

สุดท้ายกับคำถามเรื่องเงินเดือน ที่คุณคงมีตัวเลขในใจอยู่แล้ว แต่ครั้นจะบอกไปโดดๆ ก็อาจดูโผงผางไป คุณสามารถยกเหตุผลประกอบขึ้นมาให้ผู้สัมภาษณ์เห็นด้วยก็ได้ว่า ทำไมคุณจึงต้องการค่าตอบแทนจำนวนเท่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะคุณสมบัติ ประสบการณ์ หรือวุฒิที่คุณได้มา ก็สามารถเป็นเครื่องการันตีได้ทั้งนั้นว่าคุณสมควรได้รับในจำนวนที่เรียกไป
With my degree and portfolio, I feel something around 30,000 Baht would be reasonable.
ด้วยวุฒิและผลงานของฉัน ฉันคิดว่าประมาณ 30,000 บาทเป็นจำนวนที่สมเหตสมผลค่ะ/ครับ

เมื่อถูกถามว่าจะสามารถรับมือกับความกดดันได้อย่างไร (ให้เราพูดถึงการทำงานอย่างมีการจัดการที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเวลา หรือระบบการทำงานที่ดี สิ่งเหล่านี้จะเป็นทางออกที่จะทำให้เราไม่ต้องรับมือกับความกดดัน เพราะงานที่ทำให้กดดันส่วนมากมักเกิดจากงานเร่ง งานกองท่วมหัว จึงทำให้รับมือไม่ทัน ดังนั้นเมื่อผ่านการจัดการอย่างดี ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป)
I think a good time management is the way to handle pressure. 
ฉันคิดว่าถ้ามีการจัดการเวลาที่ดี ก็จะเป็นทางที่จะรับมือกับความกดดันได้นะคะ/ครับ


ก่อนจะลาจากกันไป เราสามารถตบท้ายด้วยประโยคสร้างความประทับใจอีกท่อน เพื่อให้เค้าเอ็นดูเรามากขึ้น
I really appreciate the chance to have an interview with you today. Thank you so much.
ฉันดีใจที่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับคุณในวันนี้จริงๆ ขอบคุณมากค่ะ/ครับ
........................................................................

อ่านตัวอย่างหนังสือของเราได้ ที่นี่
ติดตามความเคลื่อนไหวของเราได้ ที่นี่
ติดต่อ แนะนำ ติชมเราได้ที่ Line: happyhourbook
........................................................................

เรียนรู้ภาษากับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
แล้วเราจะส่งความรู้ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ


Saturday, June 27, 2015

5 ประโยคเด็ด สร้างความประทับใจให้บอส

5 ประโยคเด็ด
สร้างความประทับใจให้เจ้านายต่างชาติ



มาเปลี่ยนอารมณ์หงุดหงิดของเจ้านายให้กลายเป็นหน้ายิ้มกันเถอะ!
เขาแรงมา คุณก็ไม่จำเป็นต้องแรงกลับ... ทำงานให้มีความสุขกันดีกว่า เพราะทุกคนก็ล้วนอยากให้งานทุกงานมีคุณภาพดีที่สุด ถ้าไม่รู้จะพูดอะไร...ลองประโยคเหล่านี้จิ รับรองว่าบอสคุณต้องภูมิใจ และดีใจแน่ๆ ที่ได้ยิน ^_^


I’ll keep you updated.
ไอลฺ คีพ ยู อัพเดททิด
ฉันจะคอยรายงานความคืบหน้าค่ะ/ครับ

I’ll get started right away.
ไอลฺ เกท สตารฺททิด ไรทฺ อะเวยฺ
ฉันจะเริ่มเดี๋ยวนี้เลยค่ะ/ครับ

Don’t worry, I’ve got it under control.
โดนทฺ วอรฺรี ไอฟวฺ กอท อิท อันเดอรฺ คันโทรล
ไม่ต้องห่วง ฉันควบคุมได้อยู่แล้วค่ะ/ครับ

You can count on me.
ยู แคน เคาทฺ ออน มี
คุณสามารถไว้ใจฉันได้ค่ะ/ครับ

Is there anything else you'd like me to do?
อิซ แดรฺ เอนนีทิง เอลฺซ ยูดฺ ไลคฺ มี ทู ดู
มีอะไรที่คุณต้องการให้ฉันทำอีกไหมคะ/ครับ

เห็นไหมว่ามีแต่ความหมายดี+++ ทั้งนั้น... ถึงแม้ว่าในตอนนั้นคุณจะไม่มีอารมณ์อยากทำงานก็ตาม แต่การพูดดีเข้าไว้ ก็มีแต่จะทำให้ทุกอย่างราบรื่นนะ

อ่านตัวอย่างหนังสือของเราได้ ที่นี่
ติดตามความเคลื่อนไหวของเราได้ ที่นี่
ติดต่อ แนะนำ ติชมเราได้ที่ Line: happyhourbook
........................................................................

เรียนรู้ภาษากับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
แล้วเราจะส่งความรู้ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ




Friday, June 26, 2015

Conversation อยากลดน้ำหนัก พูดภาษาอังกฤษว่าไงดี?

Conversation
อยากลดน้ำหนัก พูดว่าไงดี?



A: 
How can I reduce my overweight?
ฮา แคน ไอ รีดิวซฺ มาย โอเวอะเวท
ฉันจะสามารถลดน้ำหนักที่เกินนี้ได้อย่างไร

A: 
Do you have any medicine for reducing?
ดู ยู แฮฟ เอนนี เมดดิซิน ฟอรฺ รีดิวซิง
คุณมียาอะไรที่จะช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่

B: 
Yes, but I don’t suggest any pills for reducing.
เยส บัท ไอ โดนทฺ ซักเจสทฺ เอนนี พิลสฺ ฟอรฺ รีดิวซิง
มี แต่ฉันไม่ขอแนะนำให้ใช้ยาในการลดน้ำหนัก

B: 
I recommend you to keep track of everything you eat.
ไอ เรคคะเมนดฺ ยู ทู คีพ แทรค ออฟ เอฟริทิง ยู อีท
ฉันขอแนะนำว่าคุณจะต้องระมัดระวังในเรื่องอาหารการกินของคุณ

B: 
You have to avoid of fat or fried food.
ยู แฮฟ ทู อะวอยดฺ ออฟ แฟท ออรฺ ฟรายดฺ ฟูด
คุณจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันหรืออาหารทอด

B: 
Starches and sweets are not good for reducing.
สทารฺชเชส แอนดฺ สวีทสฺ อารฺ นอท กูด ฟอรฺ รีดิวซิง
อาหารแป้งและขนมหวาน ไม่ดีเลยสำหรับการลดน้ำหนัก

B: 
You should change your dessert from sweets to citrus fruit.
ยู ชูด เชนจฺ ยัวรฺ ดิเซิรฺท ฟรอม สวีทสฺ ทู ซิททรัส ฟรุท
คุณควรจะเปลี่ยนของหวานจากขนมมาเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว

A: 
What’s else would you suggest?
วอทสฺ เอลสฺ วูด ยู ซักเจสทฺ
มีอะไรอย่างอื่นที่คุณจะแนะนำอีกบ้าง

B:
Eat slowly and chew your food thoroughly.
อีท สโลลี แอนดฺ ชู ยัวรฺ ฟูด เธอโรลี
รับประทานช้าๆ และเคี้ยวอาหารให้ละเอียด

B:
Eat regularly.
อีท เรกกิวละลี

รับประทานอาหารอย่างสม่ำเสมอตรงเวลา

ลองหาเพื่อนๆ มาฝึกพูดถามตอบกันแบบนี้ รับรองได้พลังใจในการทั้งลดน้ำหนักและพูดอังกฤษเก่งด้วยแน่น๊อนนน!
........................................................................

อ่านตัวอย่างหนังสือของเราได้ ที่นี่
ติดต่อ แนะนำ ติชมเราได้ที่ Line: happyhourbook
........................................................................

เรียนรู้ภาษากับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
แล้วเราจะส่งความรู้ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ


Thursday, June 25, 2015

ชวนมากิน ~ 5 ประโยคนำทางหาของกินอร่อยๆ ในญี่ปุ่น


ไปหาของกินในญี่ปุ่นกันเถอะ
อ้าว...แล้วจะถามยังไงดี?
5 ประโยคนำทางหาของกินอร่อยๆ



เวลาไปเที่ยว คงปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเวลาการสั่งอาหาร เป็นอะไรที่ระทึกใจมาก (โดยเฉพาะร้านที่ไม่มีรูปให้ดู!) และยิ่งถ้าเป็นร้านอาหารตามชานเมือง หรือในชนบท ยิ่งมีแต่ภาษาบ้านเค้า (อ่านแล้วมโนเองนะ ว่าหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร...) วันนี้เราจึงมีบทสนทนาคร่าวๆ ว่าเราจะถามคนพื้นที่อย่างไร เวลาที่ต้องการหาร้านอาหารที่ถูกใจ หรือหาของกินที่เตรียมมาแล้ว (อาจมีรูปประกอบ หรือร้านในดวงใจมาแล้วก็ได้) หรือถ้าในหัวว่างเปล่า ก็สามารถถามจากคนพื้นที่ หรือพนักงานในโรงแรมเลยก็ได้ ^_^

1. ในกรณีถ้าเรามีรายการอาหารในดวงใจมาแล้ว (อาจมีรูป หรือมีชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นมา)
ฉันอยากกกิน (ชื่ออาหาร) มีร้านแนะนำไหมคะ/ครับ

(ชื่ออาหาร) โวะ ทาเบไต้เดสงะ โอซุซุเมนะ โอมิเซะ อะริมัสก๊ะ

2. ถ้า walk in ควรถามก่อนสักนิด 
ฉันไม่ได้จองโต๊ะไว้ ยังมีโต๊ะว่างไหมคะ/ครับ
โยยาคุนาชิเดสงะ เซกิไอเตะอิมัสก๊ะ

3. ถ้าอยากสัมผัสความเป็นเมืองนั้นอย่างเป็น original ห้ามพลาดอาหารขึ้นชื่อของเมือง

ของขึ้นชื่อของเมืองนี้มีอะไรบ้างคะ/ครับ
โคโนะ มัจจิ โนะ เมบุสซึ วะ นั่นเดสก๊ะ

4. ร้านอาหารชื่อดังของเมืองอาจมีหลายเจ้า ได้ชื่อมาแล้วก็ Search ดูโลด...
ช่วยแนะนำร้านอาหารชื่อดังของเมืองนี้ให้หน่อยได้ไหมคะ/ครับ
ยูเมนะ โอมิเซะ โอชิเอเตะคุเรมาเซงก๊ะ

5. ถ้าสมมติเราสุ่มสี่สุ่มห้าเดินเข้าร้านไป เอาให้เซฟ...ก็ควรสั่งอาหารแนะนำของร้านนะ
เมนูแนะนำของร้านนี้มีอะไรบ้างคะ/ครับ
โอซุซุเม วะ นั่นเดสก๊ะ

........................................................................

ขอบคุณเนื้อหาจากหนังสือ "พูดภาษาญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นไม่ง้อทัวร์"
ภาษาญี่ปุ่นสำเร็จรูป เอาตัวรอดในญี่ปุ่นได้ทุกสถานการณ์




















เรียนรู้ภาษากับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
แล้วเราจะส่งความรู้ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ




Tuesday, June 23, 2015

10 คำถามภาษาญี่ปุ่น คุยกับพนักงานขายเวลา Shopping

ช็อปปิ้งในญี่ปุ่น

คุยกับพนักงานขายอย่างไรดี ?



กิจกรรมที่คนไทยทำเป็นอันดับต้นๆ นอกจากชมธรรมชาติแล้วก็ต้องเรื่องช็อป ช็อป นี่ล่ะ
เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความ Creative! สูงม๊าก จนเงินในกระเป๋ากระเด็นออกไปไม่รู้ตัว
และความน่ารักของสินค้าต่างๆ ที่ทำให้เราทนใจแข็งไม่ไหว

แต่จะต่อรองอย่างไร ถามสินค้าอย่างไรดี วันนี้เรามีบทสนทนาง่ายๆ มาฝากกัน

1. ฉันขอลองใส่ได้ไหมคะ/ครับ (รองเท้า/เสื้อผ้า)
ไฮเตะมิเตะอี้เดสก๊ะ/ชิชาคุชิเตะอี้เดสก๊ะ 

2. Tax Refund ได้ไหมคะ/ครับ
แท็คคุฟุรี เดคิมัสก๊ะ

3. ใช้เครดิตการ์ดจ่ายได้หรือไม่คะ/ครับ
คุเรจิตโตะกาดโดะ เดะ ฮาไรเอมัสก๊ะ

4. รับบัตรอันนี้ไหมคะ/ครับ
โคโนะ กาดโดะ ซึไกเอมัสก๊ะ

5. ไม่เอาค่ะ/ครับ (ปฏิเสธ)
ซุมิมาเซง ไดโจบุเดส

6. ตกลงฉันเอาอันนี้ค่ะ/ครับ
โคเระ นิ ชิมัส

7. คุณมีสินค้าตัวนี้หรือเปล่าคะ/ครับ (ให้ดูรูป)
โคเระ อะริมัสก๊ะ (ให้ดูรูป)

8. ประกันอันนี้รับรองที่ไทยหรือเปล่าคะ/ครับ 
ไท นิ ซึไกไต้เดสงะ โคโนะ โฮเคง วะ ไดโจบุเดสก๊ะ

9. มี/ไม่มีค่ะ/ครับ
อะริมัส/อะริมาเซง

10. มีไซส์ (ขนาดไซส์) ไหมคะ/ครับ
(ขนาดไซส์) โนะ ไซ้ซึ อะริมัสก๊ะ

........................................................................

ขอบคุณเนื้อหาจากหนังสือ "พูดภาษาญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นไม่ง้อทัวร์"
ภาษาญี่ปุ่นสำเร็จรูป เอาตัวรอดในญี่ปุ่นได้ทุกสถานการณ์



เรียนรู้ภาษากับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
แล้วเราจะส่งความรู้ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ


Monday, June 22, 2015

คำศัพท์คล้ายกัน แต่คนละความหมาย Get across ~ Get along

Get across
vs
Get along



คำศัพท์ที่เป็นคำสองคำประสมกัน บางทีอาจทำให้เรางงว่ามันต่างกันอย่างไร
ทั้งๆ ที่เขียนคล้ายกัน แต่ความหมายไม่เหมือนกันเลยล่ะ 

Get across แปลว่า 
เป็นที่เข้าใจ, ได้รับการยอมรับ, ข้ามผ่าน
เช่น

Our student can get their ideas across.
นักเรียนของเราสามารถถ่ายทอดความคิดของพวกเขาออกมาได้อย่างดี

Get along แปลว่า 
ดำเนินชีวิตได้อย่างดี, ก้าวหน้า, เข้ากันได้ดี
เช่น
Amy is getting along with Sarah.
เอมี่เข้ากับซาร่าห์ได้ดี



........................................................................
ขอบคุณความรู้แน่นๆ จากครูแอม ผู้เขียนหนังสือ "เลือกใช้ศัพท์ให้ฝรั่ง Like"
จับจองรูปเล่มจริงกันได้แล้ววันนี้ที่ร้านหนังสือใกล้บ้าน
FREE BOOK Delivery บริการส่งถึงหน้าบ้านกับราคาลดพิเศษ สั่งซื้อได้ ที่นี่
EBOOK version รูปแบบใหม่ จัดเต็ม 4 สี แต่ราคาลดพิเศษ!
โหลดกันได้ ที่นี่ 














เรียนรู้ภาษากับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
แล้วเราจะส่งความรู้ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ

Sunday, June 21, 2015

TIPS เคล็ดลับเรียนนอกกรอบ เก่งภาษาอังกฤษแบบเทพๆ

TIPS
เคล็ดลับเรียนนอกกรอบ
เก่งภาษาอังกฤษแบบเทพๆ




วันนี้เราจะชวนมาแหกกฎเดิมๆ ของการเรียนภาษาอังกฤษ
เริ่มตั้งแต่ข้อแรกนั่นคือ.....

1. อย่าเพิ่งไปสนแกรมม่าร์ให้มากนัก ปล่อยๆ มันไปก่อน !!!!
หา!!... ทำไมไม่ให้สนไวยากรณ์? ไม่ใช่ไม่ให้สนซะทีเดียวค่ะ แต่อย่าไปสนจนมากเกินไป
ถ้าคุณต้องการที่จะเรียนเพื่อสอบผ่าน...นั่นคือต้องติวแกรมม่าร์สุดๆ 
แต่!! ถ้าคุณต้องการที่จะเก่งภาษาอังกฤษ ก็ลองเรียนพูด (พูดไปเลย!) และฟังบ่อยๆ กล้าที่จะทำสิ่งเหล่านี้เป็นประจำ โดยที่ยังไม่ต้องไปกลัวว่าจะถูกแกรมม่าร์ไหม ขอแค่ให้ได้ฝึกอย่างสม่ำเสมอ ไม่นาน...ไวยากรณ์ที่ดีก็จะตามมา

2. การฟัง มาเป็นอันดับหนึ่ง
เพราะการฟัง เป็นกุญแจนำไปสู่การพูดที่ดี ให้คุณใช้เวลาไปกับการฟังให้มากเข้าไว้

3. ฝึกพูดจากสิ่งที่ได้ยิน
การพูด เป็นสิ่งสำคัญของการที่จะเก่งภาษาอังกฤษ เรียงลำดับได้ดังนี้
พูด > ฟัง > อ่าน > เขียน 
ฉะนั้นเราควรใช้เวลาในการฝึกพูดให้มากที่สุด ยิ่งการพูดจากสิ่งที่ได้ยิน เช่น บทหนัง เพลง หรือนิทาน สิ่งรอบๆ ตัวจะทำให้การเรียนภาษาในชีวิตประจำวันของเราไม่น่าเบื่อ

4. ฟังแล้วตอบ ไม่ใช่ฟังแล้วฟัง
เมื่อไรที่ได้ยินคำถาม ให้ลองหัดฟังแล้วก็หัดตอบคำถามนั้นๆ
ยิ่งถ้าคุณคิดคำตอบได้เร็วเท่าไร คุณก็จะสามารถเก่งอังกฤษได้เร็วขึ้น เพราะนั่นจะหมายความว่าภาษาอังกฤษของคุณเริ่มทำงานได้แบบออโต้แล้ว

5. อย่าเพิ่งแปล
เมื่อคุณต้องการสร้างประโยคภาษาอังกฤษ อย่าเพิ่งแปลจากภาษาไทย เพราะอะไร???
ก็เพราะการเรียงคำต่างๆ จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มันจะทำให้คุณคิดได้ช้าและยิ่งไปกว่านั้นคือ จะทำให้การเรียงประโยคนั้นเกิดความผิดพลาดด้วยล่ะ

6. เรียนทั้งประโยค ไม่ใช่แค่คำศัพท์
เมื่อคุณเรียนคำศัพท์ใหม่ 1 คำ ควรเรียนให้รู้ลึกทั้งคำศัพท์และประโยคที่ใช้ได้ 
ไม่ใช่เรียนแค่คำศัพท์และความหมายของมันเพียงอย่างเดียว

ภาษาอังกฤษ ยิ่งถ้าเราสามารถพูดออกมาได้อย่างเป็นระบบออโต้ (เหมือนที่เราพูดภาษาแม่) ได้เมื่อไร ก้จะหมายความว่าเราเริ่มเก่งขึ้นๆ แล้วล่ะ เพราะเราจะสามารถคิดและพูดออกมาได้เร็ว และเป็นธรรมชาติ หลังจากนั้นเราค่อยมาตัดแต่งแกรมม่าร์หรือการใช้ภาษาของเราให้ถูกต้อง และเป๊ะมากขึ้นก็ยังไม่สายค่ะ ขอเพียงแค่ให้เรากล้าพูด และฝึกบ่อยๆ เท่านั้นเอง

cr: http://languagelearningbase.com/

........................................................................

เรียนรู้ภาษากับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
แล้วเราจะส่งความรู้ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ


เจาะลึกคำศัพท์ Empty - Empty hands :: มากกว่าแค่ความว่างเปล่า

Empty
vs
Empty Hands



Empty 
(เอมพฺที) = ว่างเปล่า, ไม่มีคน/ของ

ตัวอย่างประโยค
Betty followed George into the empty hallway.
เบ็ตตี้ตามจอร์จเข้าไปในห้องโถงที่ว่างเปล่า

Life was empty without him and no one can replace him.
ชีวิตมันช่างว่างเปล่าเมื่อไม่มีเขา และไม่มีใครสามารถแทนที่เขาได้

คำว่า Empty จะหมายความถึงทุกอย่างที่ว่างเปล่า แต่แค่ความว่างเปล่ายังไม่พอ...
เราจึงมีคำอื่นๆ ที่สามารถสื่อความหมายที่คล้ายกันมาฝากค่ะ

........................................................................

Empty hands 
เมื่อเติม hands (แฮนดฺส) คำศัพท์เบสิกที่แปลว่า มือ เข้าไป
เมื่อรวมกัน ก็สามารถแปลตรงๆได้ว่า มือเปล่า
ใช้สำหรับการพูดถึงเวลาที่เราเข้าบ้านบุคคลที่ไม่สนิทเป็นครั้งแรก แล้วไม่มีอะไรติดมือไปฝากเขาเลย
บางประเทศถือเป็นเรื่องที่เราควรทำนะคะ คือมีของฝากอะไรเล็กๆ น้อยๆ ไปเป็นของขวัญให้เจ้าบ้านเพื่อแสดงน้ำใจ ก็จะสามารถสร้างความประทับใจครั้งแรกได้อย่างดีเลยค่ะ

ตัวอย่างประโยค
He came in empty-handed.
เขามามือเปล่า

นอกจากนี้ก็ยังมี
Empty out (phrv) เอมพฺที เอาทฺ = เทออกให้หมด
Empty in (phrv) เอมพฺที เอาทฺ = ไหลลงสู่

สองคำนี้ก็สามารถใช้ได้ และมีความหมายที่มีจุดจบเดียวกันนั่นคือ "ความว่างเปล่า" นั่นเองค่ะ
........................................................................

เรียนรู้ภาษากับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
แล้วเราจะส่งความรู้ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ

Friday, June 19, 2015

หลงทางในญี่ปุ่น ถามทางอย่างไร :: 5 ประโยคถามทาง รู้แล้วรอด ::

หลงทางในญี่ปุ่น
ถามทางอย่างไร


หลงทาง เรียกสั้นๆ ว่า ~ มาย๊ตตะ
ถ้านึกอะไรไม่ออกก็สามารถพูดได้ แต่คนญี่ปุ่นส่วนมากจะต้องการทราบถึงที่มาที่ไปค่ะ
ว่าเรามาจากไหน ต้องการจะไปที่ไหน (เค้าจะได้ช่วยถูก!)

ดังนั้น มาฝึกพูดให้เป็นเรื่องเป็นราวดีกว่าเนอะ

เราอยู่ตรงไหนในแผนที่นี้คะ
~ แมปปุ โนะ นากะนิ อิมะ โดโกะ นิ อิมัสก๊ะ

ฉันจะไปถนน (ชื่อถนน) ต้องไปทางไหนคะ
~ วาตาชิ วะ (ชื่อถนน) โดริ เอะ อิคิไต้เดสงะ โดยัตเตะอิคิมัสก๊ะ

ฉันหลงทางแล้ว ฉันควรขึ้นรถประจำทางคันไหนที่จะไปสถานีรถไฟได้คะ
~ ช็อตโตะ มิจิ งะ มายตตั้นเดสงะ เอกิ มาเดะ อิเครุ บัสสึ วะ นั่นบังเดสก๊ะ

ถนนตรงนี้มีชื่อว่าอะไรคะ
~ โคโนะ มิจิ โนะ นามาเอะ วะ นั่นเดสก๊ะ

แถวนี้มีห้องน้ำสาธารณะหรือเปล่าคะ
~ โคโนะเฮน โทอิเระ อะริมัสก๊ะ

........................................................................

ขอบคุณเนื้อหาจากหนังสือ "พูดภาษาญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นไม่ง้อทัวร์"
ภาษาญี่ปุ่นสำเร็จรูป เอาตัวรอดในญี่ปุ่นได้ทุกสถานการณ์



















เรียนรู้ภาษากับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
แล้วเราจะส่งความรู้ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ


Thursday, June 18, 2015

WARNING! ศัพท์ควรระวัง :: Lather - Leather เพิ่ม E ตัวเดียว ความหมายเปลี่ยน ::

WARNING!
ศัพท์ควรระวัง
แค่เพิ่มอักษรตัวเดียว ความหมายเปลี่ยน



ศัพท์ในภาษาอังกฤษ นอกจากจะเยอะและสะกดยากแล้ว บางคำที่ความหมายต่างกันอย่างสิ้นเชิง ก็ดั๊นนน มาเขียนคล้ายกันอีก!
เห็นเป็นเช่นนี้ เราเลยมีคำศัพท์แฝดคนละฝา มาฝากกันค่ะ

........................................................................

Lather (n) ลาเธอรฺ = ฟอง, ฟองสบู่
Lather (vt) ลาเธอรฺ = ตีให้เป็นฟอง
Lather up (phrv) ลาเธอรฺ อัพ = ทำให้เกิดฟอง (สบู่)

Hard water does not easily form lather with soap.
น้ำที่กระด้างจะไม่ทำให้เกิดฟองสบู่ได้ง่ายนัก

........................................................................

Leather (n) เลธเธอะ = หนังสัตว์, หนังฟอก

He dropped into the leather office chair and picked up the letter.
เขาทิ้งตัวลงที่เก้าอี้หนังที่ใช้ทำงานแล้วหยิบจดหมายขึ้นมา

นอกจากนี้ Leather ยังสามารถบ่งบอกถึงสีได้อีกด้วยนะ
Leathercolored (adj) = ที่มีน้ำตาลอ่อน (เหมือนหนัง)

........................................................................

รู้แบบนี้แล้ว เวลาที่จะเขียนควรตรวจสอบให้ดีมากๆ นะคะ ไม่อย่างนั้นความหมายอาจจะเพี้ยนไปหมดเลยก็เป็นได้ (แค่เติม e เพิ่มไปตัวเดียวนะเนี่ย) การออกเสียงก็เช่นกันน้าาา

ใครอยากเรียนรู้ศัพท์กับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้
แล้วเราจะส่งคำศัพท์ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน
พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ