Showing posts with label ภาษาอังกฤษ. Show all posts
Showing posts with label ภาษาอังกฤษ. Show all posts

Monday, July 27, 2015

Effect - Affect ทำหน้าที่ต่างกัน แต่ความหมายคล้ายกัน / ตัวอย่างประโยคและการใช้


Effect = ผลกระทบ เป็นคำที่เราใช้กันบ่อย แต่รู้ไหมว่ามันยังมีอีกคำหนึ่งที่ความหมายคล้ายกันคือ Affect ซึ่งบางคนก็ยังไม่เคยทราบว่ามีคำนี้ด้วย แล้วสองคำนี้ต่างกันอย่างไร?

Effect กับ Affect นั้นมีความหมายคล้ายกัน นั่นคือ สื่อถึงคำว่า ผลกระทบเหมือนกัน เพียงแต่ว่า การทำหน้าที่ในประโยคจะแตกต่างกัน

Effect ทำหน้าที่เป็น Noun หรือ คำนามของประโยค เช่น
The climate has an effect on the crops.
สภาพอากาศมีผลกระทบต่อพืชผล

Affect ทำหน้าที่เป็น Verb หรือคำกริยาของประโยค เช่น
The climate affects the crops.
สภาพอากาศส่งผลต่อพืชผล

เพียงแค่เรารู้หลัก ความต่างของคำ ก็จะสามารถเลือกใช้ให้ถูกการสื่อความหมาย ถูกต้องกับประโยคที่ต้องการจะแต่งได้

ที่มา : หนังสือ เลือกใช้ศัพท์ให้ฝรั่ง Like โดย ครูแอม
เวอร์ชั่นหนังสือ คลิก
เวอร์ชั่น E-book คลิก
- คำศัพท์ชวนงง - คำศัพท์ที่ความหมายคล้ายกันแต่ทำหน้าที่ไม่เหมือนกัน - คำศัพท์ที่เขียนคล้ายกันแต่คนละความหมาย - คำพ้องรูปพ้องเสียง เป็นต้น



Friday, July 17, 2015

Live in - Live on ต่างกันอย่างไร



Live in หลักๆ แล้วแปลว่า อยู่อาศัย (อยู่ในที่) มีชีวิตอยู่ในสภาพ

All the students will live in the same hotel tonight.
นักเรียนทั้งหมดจะพักอาศัยอยู่ในโรงแรมเดียวกันคืนนี้

Live on หลักๆ แล้วแปลว่า พึ่งพา / มีชีวิตอยู่โดย

Sarah does not want to live on her parents.
ซาร่าห์ไม่ต้องการจะพึ่งพาพ่อแม่ในการดำรงชีพ


..........................................................................................

ที่มา: หนังสือเลือกใช้ศัพท์ให้ฝรั่ง Like ***Best Selling!
Ebook : เลือกใช้ศัพท์ให้ฝรั่ง Like
ร้านซีเอ็ดบุคเซ็นเตอร์ : เลือกใช้ศัพท์ให้ฝรั่ง Like

Tuesday, July 14, 2015

During - For - While ความแตกต่างในการใช้และการสื่อความหมาย

During - For - While
ความแตกต่างในการใช้และการสื่อความหมาย



During
During = ดยู-ริง = ใช้ในระหว่างที่เกินขึ้น
During ต้องตามด้วยคำนามเสมอ
เช่น The fans were singing during the concert.
เหล่าแฟนๆ กำลังร้องเพลงอยู่ในระหว่างคอนเสิร์ต

For
For = ฟอรฺ = ใช้เพื่อบอกว่าสิ่งนั้นเกิดขึ้นมานานเท่าไรแล้ว
ใช้ For แล้วตามด้วยระยะเวลา เช่น กี่ชั่วโมง หรือเวลานานเท่าไร
เช่น I've been driving for two hours.
ฉันขับรถมา 2 ชั่วโมงแล้ว

While
While = ไวลฺ = ใช้พูดถึงสองสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
While ในขณะที่... ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องตามด้วย อีกเหตุการณ์หนึ่ง ที่มีประธาน + การกระทำ
เช่น My brother was singing while I was watching a movie.
พี่ชายของฉันร้องเพลงในขณะที่ฉันกำลังดูหนังอยู่

------------------------------------------
ตัวอย่างหนังสือของเรา : http://issuu.com/happyhourbook
Cr: American English at state

Sunday, June 28, 2015

Job Interview :: 10 คำตอบสวยๆ เวลาโดนสัมภาษณ์งาน ::

Job Interview
10 คำตอบสวยๆ เวลาโดนสัมภาษณ์งาน


TOP 10 คำถามสัมภาษณ์งานเราก็ได้เรียนรู้กันไปแล้ว คราวนี้มาถึงคำตอบสวยๆ กันบ้าง คำตอบนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละสายงาน และตัวตนของคุณเอง แต่เราจะมานำเสนอในแบบกลางๆ ที่จะสร้างความประทับใจให้ผู้สัมภาษณ์ได้นะคะ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการขายตัวเอง! เรามีดี และควรประกาศให้โลกรู้ โอเค๊ ^^

เมื่อให้บอกถึงตัวคุณ นอกจากประวัติแล้วก็ควรพูดถึงส่วนที่ดีของคุณ (ขายตัวเองเลย!) หรือประวัติที่ดีในการทำงาน อาจเล่าเหตุการณ์ที่คุณได้รับรางวัล หรือเรื่องดีๆ ที่จะทำให้ผู้สัมภาษณ์ประทับใจ
I am very outgoing, hardworking and honest.
ฉันเป็นคนเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ขยัน และซื่อสัตย์ค่ะ/ครับ

เมื่อถูกถามว่าคุณเหมาะกับงานนี้อย่างไร คุณสามารถหยิบยกภูมิหลังหรือประสบการณ์ที่คุณเคยทำมาเป็นเหตุผลประกอบได้ว่า ตำแหน่งที่สมัครไปนั้น คุณมีความเชี่ยวชาญ หรือเหมาะกับมันอย่างไร
I have a degree in design and lots of experiences of advertising.
ฉันจบการศึกษาทางด้านการออกแบบ และมีประสบการณ์มากมายทางด้านงานโฆษณาค่ะ/ครับ

เมื่อถูกถามถึงจุดอ่อน (บางจุดอ่อนถือเป็นเรื่องที่ฝึกฝน และพัฒนากันได้ แต่แน่นอนว่าจุดอ่อนที่กล่าวไป ไม่ใช่คุณสมบัติหลักที่บริษัทต้องการนะ)
I had a bit of trouble with presentation skill.
ฉันมีปัญหาในการนำเสนองานนิดหน่อยค่ะ/ครับ

จุดแข็งของเรา (ถึงเวลาขายตัวเองได้เต็มที่แล้วล่ะ)
My customer service  skills are excellent.
ทักษะการบริการลูกค้าของฉันนั้นยอดเยี่ยมมากเลยล่ะค่ะ/ครับ

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับบริษัทที่เราไปสมัคร (คุณควรทำการบ้านมาหน่อยสำหรับคำถามนี้ ว่าบริษัทที่สมัครไปนั้น ให้บริการทางด้านไหน เกี่ยวกับอะไร อย่างน้อยก็เป็นข้อมูลพื้นฐานที่จะทำให้เราทราบได้ว่า ควรเน้นคุณสมบัติด้านไหนออกมาให้ผู้สัมภาษณ์ได้รับฟัง)
Your company is the best in advertising and has a good reputation.
บริษัทของคุณเป็นที่หนึ่งทางด้านงานโฆษณาและยังมีชื่อเสียงที่ดีมากด้วยค่ะ/ครับ

ทำงานเป็นทีมหรือคนเดียวดีกว่า (แน่นอนว่าการทำงานย่อมมีทั้งด้านที่โซโล่ และทำงานเป็นทีม ส่วนมากนั้นคนจะมีปัญหากับการทำงานกับผู้อื่นมากกว่าทำคนเดียว ดังนั้นคุณควรแสดงให้บริษัทเห็นว่าคุณไม่ได้มีปัญหากับการเข้าสังคม หรือทางด้านมนุษยสัมพันธ์ในการทำงาน)
I like to work as a part of a team, because I can exchange attitude and ideas which useful for my work.
ฉันชอบทำงานเป็นทีมมากกว่า เพราะฉันจะสามารถแลกเปลี่ยนทัศนคติและไอเดียที่อาจมีประโยชน์ต่องานค่ะ/ครับ

เมื่อถูกถามว่าทำไมถึงออกมาจากงานที่เก่า ให้คุณพูดทางบวกเข้าไว้ (ถึงแม้ว่าที่เดิมจะแย่...แต่การไม่รื้อฟื้น หรือนำที่ทำงานเก่ามาเม้าท์ให้ที่ใหม่ฟังก็เป็นความคิดที่ดีกว่าจริงไหม :P)
I am looking for bigger challenges and new experiences.
ฉันอยากได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ และงานที่ท้าทายมากขึ้นค่ะ/ครับ

เมื่อถูกถามถึงเรื่องอนาคต (คำถามนี้คุณลองนึก จินตนาการไว้ก่อนเลยก็ได้ว่าคุณอยากจะทำอะไร แน่นอนว่าควรเป็นเรื่องของความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการ หรือตำแหน่งที่สูงในสายงานที่คุณสมัคร ซึ่งจะทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าคุณมีทัศนคติที่รักที่จะก้าวหน้า ทะเยอทะยาน ไม่ใช่ทำงานไปวันๆ หรือย่ำอยู่กับที่)
I want to see myself in a top management title in advertising company.
ฉันอยากเห็นตัวเองอยู่ในฝ่ายผู้จัดการในบริษัททางด้านโฆษณาค่ะ/ครับ

สุดท้ายกับคำถามเรื่องเงินเดือน ที่คุณคงมีตัวเลขในใจอยู่แล้ว แต่ครั้นจะบอกไปโดดๆ ก็อาจดูโผงผางไป คุณสามารถยกเหตุผลประกอบขึ้นมาให้ผู้สัมภาษณ์เห็นด้วยก็ได้ว่า ทำไมคุณจึงต้องการค่าตอบแทนจำนวนเท่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะคุณสมบัติ ประสบการณ์ หรือวุฒิที่คุณได้มา ก็สามารถเป็นเครื่องการันตีได้ทั้งนั้นว่าคุณสมควรได้รับในจำนวนที่เรียกไป
With my degree and portfolio, I feel something around 30,000 Baht would be reasonable.
ด้วยวุฒิและผลงานของฉัน ฉันคิดว่าประมาณ 30,000 บาทเป็นจำนวนที่สมเหตสมผลค่ะ/ครับ

เมื่อถูกถามว่าจะสามารถรับมือกับความกดดันได้อย่างไร (ให้เราพูดถึงการทำงานอย่างมีการจัดการที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเวลา หรือระบบการทำงานที่ดี สิ่งเหล่านี้จะเป็นทางออกที่จะทำให้เราไม่ต้องรับมือกับความกดดัน เพราะงานที่ทำให้กดดันส่วนมากมักเกิดจากงานเร่ง งานกองท่วมหัว จึงทำให้รับมือไม่ทัน ดังนั้นเมื่อผ่านการจัดการอย่างดี ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป)
I think a good time management is the way to handle pressure. 
ฉันคิดว่าถ้ามีการจัดการเวลาที่ดี ก็จะเป็นทางที่จะรับมือกับความกดดันได้นะคะ/ครับ


ก่อนจะลาจากกันไป เราสามารถตบท้ายด้วยประโยคสร้างความประทับใจอีกท่อน เพื่อให้เค้าเอ็นดูเรามากขึ้น
I really appreciate the chance to have an interview with you today. Thank you so much.
ฉันดีใจที่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับคุณในวันนี้จริงๆ ขอบคุณมากค่ะ/ครับ
........................................................................

อ่านตัวอย่างหนังสือของเราได้ ที่นี่
ติดตามความเคลื่อนไหวของเราได้ ที่นี่
ติดต่อ แนะนำ ติชมเราได้ที่ Line: happyhourbook
........................................................................

เรียนรู้ภาษากับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
แล้วเราจะส่งความรู้ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ


Friday, June 26, 2015

Conversation อยากลดน้ำหนัก พูดภาษาอังกฤษว่าไงดี?

Conversation
อยากลดน้ำหนัก พูดว่าไงดี?



A: 
How can I reduce my overweight?
ฮา แคน ไอ รีดิวซฺ มาย โอเวอะเวท
ฉันจะสามารถลดน้ำหนักที่เกินนี้ได้อย่างไร

A: 
Do you have any medicine for reducing?
ดู ยู แฮฟ เอนนี เมดดิซิน ฟอรฺ รีดิวซิง
คุณมียาอะไรที่จะช่วยลดน้ำหนักได้หรือไม่

B: 
Yes, but I don’t suggest any pills for reducing.
เยส บัท ไอ โดนทฺ ซักเจสทฺ เอนนี พิลสฺ ฟอรฺ รีดิวซิง
มี แต่ฉันไม่ขอแนะนำให้ใช้ยาในการลดน้ำหนัก

B: 
I recommend you to keep track of everything you eat.
ไอ เรคคะเมนดฺ ยู ทู คีพ แทรค ออฟ เอฟริทิง ยู อีท
ฉันขอแนะนำว่าคุณจะต้องระมัดระวังในเรื่องอาหารการกินของคุณ

B: 
You have to avoid of fat or fried food.
ยู แฮฟ ทู อะวอยดฺ ออฟ แฟท ออรฺ ฟรายดฺ ฟูด
คุณจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันหรืออาหารทอด

B: 
Starches and sweets are not good for reducing.
สทารฺชเชส แอนดฺ สวีทสฺ อารฺ นอท กูด ฟอรฺ รีดิวซิง
อาหารแป้งและขนมหวาน ไม่ดีเลยสำหรับการลดน้ำหนัก

B: 
You should change your dessert from sweets to citrus fruit.
ยู ชูด เชนจฺ ยัวรฺ ดิเซิรฺท ฟรอม สวีทสฺ ทู ซิททรัส ฟรุท
คุณควรจะเปลี่ยนของหวานจากขนมมาเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว

A: 
What’s else would you suggest?
วอทสฺ เอลสฺ วูด ยู ซักเจสทฺ
มีอะไรอย่างอื่นที่คุณจะแนะนำอีกบ้าง

B:
Eat slowly and chew your food thoroughly.
อีท สโลลี แอนดฺ ชู ยัวรฺ ฟูด เธอโรลี
รับประทานช้าๆ และเคี้ยวอาหารให้ละเอียด

B:
Eat regularly.
อีท เรกกิวละลี

รับประทานอาหารอย่างสม่ำเสมอตรงเวลา

ลองหาเพื่อนๆ มาฝึกพูดถามตอบกันแบบนี้ รับรองได้พลังใจในการทั้งลดน้ำหนักและพูดอังกฤษเก่งด้วยแน่น๊อนนน!
........................................................................

อ่านตัวอย่างหนังสือของเราได้ ที่นี่
ติดต่อ แนะนำ ติชมเราได้ที่ Line: happyhourbook
........................................................................

เรียนรู้ภาษากับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
แล้วเราจะส่งความรู้ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ


Monday, June 22, 2015

คำศัพท์คล้ายกัน แต่คนละความหมาย Get across ~ Get along

Get across
vs
Get along



คำศัพท์ที่เป็นคำสองคำประสมกัน บางทีอาจทำให้เรางงว่ามันต่างกันอย่างไร
ทั้งๆ ที่เขียนคล้ายกัน แต่ความหมายไม่เหมือนกันเลยล่ะ 

Get across แปลว่า 
เป็นที่เข้าใจ, ได้รับการยอมรับ, ข้ามผ่าน
เช่น

Our student can get their ideas across.
นักเรียนของเราสามารถถ่ายทอดความคิดของพวกเขาออกมาได้อย่างดี

Get along แปลว่า 
ดำเนินชีวิตได้อย่างดี, ก้าวหน้า, เข้ากันได้ดี
เช่น
Amy is getting along with Sarah.
เอมี่เข้ากับซาร่าห์ได้ดี



........................................................................
ขอบคุณความรู้แน่นๆ จากครูแอม ผู้เขียนหนังสือ "เลือกใช้ศัพท์ให้ฝรั่ง Like"
จับจองรูปเล่มจริงกันได้แล้ววันนี้ที่ร้านหนังสือใกล้บ้าน
FREE BOOK Delivery บริการส่งถึงหน้าบ้านกับราคาลดพิเศษ สั่งซื้อได้ ที่นี่
EBOOK version รูปแบบใหม่ จัดเต็ม 4 สี แต่ราคาลดพิเศษ!
โหลดกันได้ ที่นี่ 














เรียนรู้ภาษากับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
แล้วเราจะส่งความรู้ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ

Sunday, June 21, 2015

TIPS เคล็ดลับเรียนนอกกรอบ เก่งภาษาอังกฤษแบบเทพๆ

TIPS
เคล็ดลับเรียนนอกกรอบ
เก่งภาษาอังกฤษแบบเทพๆ




วันนี้เราจะชวนมาแหกกฎเดิมๆ ของการเรียนภาษาอังกฤษ
เริ่มตั้งแต่ข้อแรกนั่นคือ.....

1. อย่าเพิ่งไปสนแกรมม่าร์ให้มากนัก ปล่อยๆ มันไปก่อน !!!!
หา!!... ทำไมไม่ให้สนไวยากรณ์? ไม่ใช่ไม่ให้สนซะทีเดียวค่ะ แต่อย่าไปสนจนมากเกินไป
ถ้าคุณต้องการที่จะเรียนเพื่อสอบผ่าน...นั่นคือต้องติวแกรมม่าร์สุดๆ 
แต่!! ถ้าคุณต้องการที่จะเก่งภาษาอังกฤษ ก็ลองเรียนพูด (พูดไปเลย!) และฟังบ่อยๆ กล้าที่จะทำสิ่งเหล่านี้เป็นประจำ โดยที่ยังไม่ต้องไปกลัวว่าจะถูกแกรมม่าร์ไหม ขอแค่ให้ได้ฝึกอย่างสม่ำเสมอ ไม่นาน...ไวยากรณ์ที่ดีก็จะตามมา

2. การฟัง มาเป็นอันดับหนึ่ง
เพราะการฟัง เป็นกุญแจนำไปสู่การพูดที่ดี ให้คุณใช้เวลาไปกับการฟังให้มากเข้าไว้

3. ฝึกพูดจากสิ่งที่ได้ยิน
การพูด เป็นสิ่งสำคัญของการที่จะเก่งภาษาอังกฤษ เรียงลำดับได้ดังนี้
พูด > ฟัง > อ่าน > เขียน 
ฉะนั้นเราควรใช้เวลาในการฝึกพูดให้มากที่สุด ยิ่งการพูดจากสิ่งที่ได้ยิน เช่น บทหนัง เพลง หรือนิทาน สิ่งรอบๆ ตัวจะทำให้การเรียนภาษาในชีวิตประจำวันของเราไม่น่าเบื่อ

4. ฟังแล้วตอบ ไม่ใช่ฟังแล้วฟัง
เมื่อไรที่ได้ยินคำถาม ให้ลองหัดฟังแล้วก็หัดตอบคำถามนั้นๆ
ยิ่งถ้าคุณคิดคำตอบได้เร็วเท่าไร คุณก็จะสามารถเก่งอังกฤษได้เร็วขึ้น เพราะนั่นจะหมายความว่าภาษาอังกฤษของคุณเริ่มทำงานได้แบบออโต้แล้ว

5. อย่าเพิ่งแปล
เมื่อคุณต้องการสร้างประโยคภาษาอังกฤษ อย่าเพิ่งแปลจากภาษาไทย เพราะอะไร???
ก็เพราะการเรียงคำต่างๆ จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มันจะทำให้คุณคิดได้ช้าและยิ่งไปกว่านั้นคือ จะทำให้การเรียงประโยคนั้นเกิดความผิดพลาดด้วยล่ะ

6. เรียนทั้งประโยค ไม่ใช่แค่คำศัพท์
เมื่อคุณเรียนคำศัพท์ใหม่ 1 คำ ควรเรียนให้รู้ลึกทั้งคำศัพท์และประโยคที่ใช้ได้ 
ไม่ใช่เรียนแค่คำศัพท์และความหมายของมันเพียงอย่างเดียว

ภาษาอังกฤษ ยิ่งถ้าเราสามารถพูดออกมาได้อย่างเป็นระบบออโต้ (เหมือนที่เราพูดภาษาแม่) ได้เมื่อไร ก้จะหมายความว่าเราเริ่มเก่งขึ้นๆ แล้วล่ะ เพราะเราจะสามารถคิดและพูดออกมาได้เร็ว และเป็นธรรมชาติ หลังจากนั้นเราค่อยมาตัดแต่งแกรมม่าร์หรือการใช้ภาษาของเราให้ถูกต้อง และเป๊ะมากขึ้นก็ยังไม่สายค่ะ ขอเพียงแค่ให้เรากล้าพูด และฝึกบ่อยๆ เท่านั้นเอง

cr: http://languagelearningbase.com/

........................................................................

เรียนรู้ภาษากับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
แล้วเราจะส่งความรู้ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ


เจาะลึกคำศัพท์ Empty - Empty hands :: มากกว่าแค่ความว่างเปล่า

Empty
vs
Empty Hands



Empty 
(เอมพฺที) = ว่างเปล่า, ไม่มีคน/ของ

ตัวอย่างประโยค
Betty followed George into the empty hallway.
เบ็ตตี้ตามจอร์จเข้าไปในห้องโถงที่ว่างเปล่า

Life was empty without him and no one can replace him.
ชีวิตมันช่างว่างเปล่าเมื่อไม่มีเขา และไม่มีใครสามารถแทนที่เขาได้

คำว่า Empty จะหมายความถึงทุกอย่างที่ว่างเปล่า แต่แค่ความว่างเปล่ายังไม่พอ...
เราจึงมีคำอื่นๆ ที่สามารถสื่อความหมายที่คล้ายกันมาฝากค่ะ

........................................................................

Empty hands 
เมื่อเติม hands (แฮนดฺส) คำศัพท์เบสิกที่แปลว่า มือ เข้าไป
เมื่อรวมกัน ก็สามารถแปลตรงๆได้ว่า มือเปล่า
ใช้สำหรับการพูดถึงเวลาที่เราเข้าบ้านบุคคลที่ไม่สนิทเป็นครั้งแรก แล้วไม่มีอะไรติดมือไปฝากเขาเลย
บางประเทศถือเป็นเรื่องที่เราควรทำนะคะ คือมีของฝากอะไรเล็กๆ น้อยๆ ไปเป็นของขวัญให้เจ้าบ้านเพื่อแสดงน้ำใจ ก็จะสามารถสร้างความประทับใจครั้งแรกได้อย่างดีเลยค่ะ

ตัวอย่างประโยค
He came in empty-handed.
เขามามือเปล่า

นอกจากนี้ก็ยังมี
Empty out (phrv) เอมพฺที เอาทฺ = เทออกให้หมด
Empty in (phrv) เอมพฺที เอาทฺ = ไหลลงสู่

สองคำนี้ก็สามารถใช้ได้ และมีความหมายที่มีจุดจบเดียวกันนั่นคือ "ความว่างเปล่า" นั่นเองค่ะ
........................................................................

เรียนรู้ภาษากับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
แล้วเราจะส่งความรู้ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ

Thursday, June 18, 2015

WARNING! ศัพท์ควรระวัง :: Lather - Leather เพิ่ม E ตัวเดียว ความหมายเปลี่ยน ::

WARNING!
ศัพท์ควรระวัง
แค่เพิ่มอักษรตัวเดียว ความหมายเปลี่ยน



ศัพท์ในภาษาอังกฤษ นอกจากจะเยอะและสะกดยากแล้ว บางคำที่ความหมายต่างกันอย่างสิ้นเชิง ก็ดั๊นนน มาเขียนคล้ายกันอีก!
เห็นเป็นเช่นนี้ เราเลยมีคำศัพท์แฝดคนละฝา มาฝากกันค่ะ

........................................................................

Lather (n) ลาเธอรฺ = ฟอง, ฟองสบู่
Lather (vt) ลาเธอรฺ = ตีให้เป็นฟอง
Lather up (phrv) ลาเธอรฺ อัพ = ทำให้เกิดฟอง (สบู่)

Hard water does not easily form lather with soap.
น้ำที่กระด้างจะไม่ทำให้เกิดฟองสบู่ได้ง่ายนัก

........................................................................

Leather (n) เลธเธอะ = หนังสัตว์, หนังฟอก

He dropped into the leather office chair and picked up the letter.
เขาทิ้งตัวลงที่เก้าอี้หนังที่ใช้ทำงานแล้วหยิบจดหมายขึ้นมา

นอกจากนี้ Leather ยังสามารถบ่งบอกถึงสีได้อีกด้วยนะ
Leathercolored (adj) = ที่มีน้ำตาลอ่อน (เหมือนหนัง)

........................................................................

รู้แบบนี้แล้ว เวลาที่จะเขียนควรตรวจสอบให้ดีมากๆ นะคะ ไม่อย่างนั้นความหมายอาจจะเพี้ยนไปหมดเลยก็เป็นได้ (แค่เติม e เพิ่มไปตัวเดียวนะเนี่ย) การออกเสียงก็เช่นกันน้าาา

ใครอยากเรียนรู้ศัพท์กับเราตัวต่อตัวแบบฟรีๆ
แอดไลน์กันมาได้เลยที่ Qrcode ด้านล่างนี้
แล้วเราจะส่งคำศัพท์ภาษาต่างๆ ไปให้ทุกวัน
พร้อมภาพกราฟฟิกน่ารักๆ เอาไว้เซฟไปท่องจำกันได้เลยค่ะ


Wednesday, June 17, 2015

Vocab of the day เจาะลึกคำศัพท์ * Breath * ลมหายใจ

VOCAB of the day
Breath / เธอคือลมหายใจ เธอคือ ~ ~ ~


Breath 
เป็นคำง่ายๆ ที่เรามักเจออยู่บ่อยๆ Breath นอกจากจะแปลว่า "ลมหายใจ" แล้ว ก็ยังแปลเกี่ยวกับการหายใจได้อีกหลายแบบเลยนะคะ

Breath (n) เบรธ = ลมหายใจ
Breathe (v) บรีธ = หายใจ, ระบายลม
Breathing (n) บรีธธิง = กระบวนการหายใจ

ตัวอย่างประโยคเช่น
She lets her breath out slowly.
เธอปล่อยลมหายใจออกอย่างช้าๆ

His breath smelled of liquor.
ลมหายใจของเขามีกลิ่นเหล้า

She took a deep breath and slowly let it out.
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วปล่อยออกมาอย่างช้าๆ

The last thing I do is to use a mouthwash to make a fresh breath.
สิ่งสุดท้ายที่ฉันทำคือใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อทำให้ลมหายใจสดชื่น

นอกจากนี้ Breath ก็ยังแปลเป็นการหายใจแบบอื่นๆ ได้อีก
Breather (n) บรีธเธอะ = การหยุดพัก, คนที่มีชีวิต
Breathless (n) เบรธเลซ = หอบ, ไม่หายใจ

และสุดท้าย Breath ก็ยังแปลงเป็นคำศัพท์ที่นำไปใช้กับการชมธรรมชาติได้อีกนะคะ
Breathtaking (adj) เบรธเทคกิง = น่าทึ่ง, น่าประหลาดใจ, น่าใจหาย (สวยขนาดนั้นนนน!)

The view is absolutely breathtaking.
วิวทิวทัศน์นี้มันช่างน่าทึ่งไปหมดจริงๆ

........................................................................................................................

made by Happy Hour Publishing
E-mail: happyhourbook2014@gmail.com

ตัวอย่างหนังสือของเรา : http://issuu.com/happyhourbook
ติดตามความเคลื่อนไหวของเราได้ที่ : Facebook Fanpage Happy Hour Book
รับความรู้ภาษาได้โดยตรงแบบฟรีๆ ที่ Line official โดยการแอด Qrcode ด้านล่างนี้ หรือ ID : qvg8499h
เราจะส่งความรู้ภาษาไปให้ทุกคน ทุกวันเลย! แถมยังสามารถพูดคุย ขอคำศัพท์เรื่องที่อยากรู้กันเข้ามาได้
เราจะพยายามตอบให้ครบทุกคนนะคะ ^_^


คำศัพท์ที่มักใช้ผิดใน Grammar :: FAST / QUICK :: แปลว่าเร็ว เหมือนกัน แต่ใช้ต่างกัน

คำศัพท์ที่มักใช้ผิดใน Grammar

FAST // QUICK

"เร็ว" เหมือนกัน แต่ใช้ต่างกัน




ทั้งสองคำนี้แปลว่า "เร็ว" เหมือนกัน และเราก็ใช้เหมือนๆกันมาตลอด
แต่วันนี้เราจะมาบอกความ "ต่าง" ของสองคำนี้ค่ะ

QUICK (ควิค)
คำนี้จะถูกใช้เมื่อมีบางสิ่งเกิดขึ้นในเวลาสั้นๆ หรือเร็วกว่าที่คาดไว้ เช่น

A quick answer.
คำตอบสั้นๆ (ที่ได้ใจความรวดเร็ว)

ตัวอย่างประโยคกรณีนี้เราจะไม่ใช้
A fast answer.
เพราะ FAST จะถูกใช้ในกรณีที่บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นโดยมีความเร็ว (Speed) เข้ามาเกี่ยวข้อง

FAST (ฟาสทฺ)
A fast train.
รถไฟที่วิ่งด้วยความเร็วสูง

ซึ่งในกรณีนี้เราก็จะไม่ใช้ A quick train. เช่นกันค่ะ

................................................................................................................

ขอบคุณความรู้แน่นๆ จากครูแอม ผู้เขียนหนังสือ "เลือกใช้ศัพท์ให้ฝรั่ง Like"
จับจองรูปเล่มจริงกันได้แล้ววันนี้ที่ร้านหนังสือใกล้บ้าน
FREE BOOK Delivery บริการส่งถึงหน้าบ้านกับราคาลดพิเศษ สั่งซื้อได้ ที่นี่
EBOOK version รูปแบบใหม่ จัดเต็ม 4 สี แต่ราคาลดพิเศษ!
โหลดกันได้ ที่นี่ 


........................................................................................................................

made by Happy Hour Publishing
Line: happyhourbook
E-mail: happyhourbook2014@gmail.com
ตัวอย่างหนังสือของเรา : http://issuu.com/happyhourbook
ติดตามความเคลื่อนไหวของเราได้ที่ : Facebook Fanpage Happy Hour Book

Monday, June 8, 2015

คำศัพท์ชวนงง ::เดินทางท่องเที่ยว Travel/Trip/Journey ต่างกันอย่างไร::

คำศัพท์ชวนงง
Travel VS Trip VS Journey
สามคำนี้แปลว่า "การเดินทางท่องเที่ยว" เหมือนๆ กัน แต่เอ...มันต่างกันอย่างไร
และเราสามารถใช้ในแต่ละรูปประโยคอย่างไร ไปดูกันเลย!



เราจะเห็นความต่างได้ว่า สามคำนี้ใช้ในระยะการเดินทางที่ต่างกัน ซึ่งเราสามารถใช้คำเหล่านี้ในการอธิบายถึงรายละเอียดของแผนการเดินทางของเราได้เลยค่ะ เช่น 
ถ้าเราวางแผนที่จะไปประเทศไกลๆ เดินทางนานๆ เราสามารถใช้ Journey (เจอร์นี) 
แต่ถ้าไปใกล้ๆ อาจเป็นประเทศเพื่อนบ้าน เดินทางไปกลับในระยะสั้นๆ ก็ใช้ Trip (ทริพ)
แต่ถ้าไปเที่ยวทั่วๆ ไป ไม่จริงจัง ก็ใช้ Travel (แทรฟเวิล) แบบปกติที่เราใช้กันจนติดปาก

ทีนี้เรามาดูการใช้ในรูปประโยคที่ส่วนมากจะใช้ผิดกันอยู่บ่อยๆ

How was your travel? ----- ผิด!
การท่องเที่ยวของคุณเป็นอย่างไรบ้าง
(travel เราจะใช้เป็น verb เป็นการกระทำ เพราะฉะนั้น นี่เป็นการเรียงประโยคที่ไม่ถูกต้อง)

ถ้าเราต้องการใส่ลงไปในประโยคเดิม ควรเปลี่ยนเป็น
How was your trip? ดีกว่านะคะ ----- ถูกต้อง!

...........................................................................

I'm planning a travel to the U.K. next year. ----- ผิด!
ฉันกำลังวางแผนที่จะไปเที่ยวสหราชอาณาจักรในปีหน้า

แก้ใหม่ค่ะๆ
ประโยคที่ถูกต้อง ถ้าเราต้องการใช้ Travel ต้องเติม to เข้าไปก่อนดังนี้
I'm planning to travel to the U.K. next year. ----- ถูกต้อง!
หรือ
ถ้าต้องการใช้คำว่า Trip ก็สามารถใช้ประโยคเดิมได้ โดยไม่ต้องเติม to เพิ่ม
I'm planning a trip to the U.K. next year.  ----- ถูกต้อง!
ฉันกำลังวางแผนที่จะไปเที่ยวสหราชอาณาจักรในปีหน้า

...........................................................................
สำหรับใครที่สนใจคำศัพท์ภาษาอังกฤษแบบเจาะลึกอีก
อย่าลืมติดตามคอร์สออนไลน์ 
เลือกใช้ศัพท์ให้ฝรั่ง Like กับครูแอมได้ที่นี่ เร็วๆ นี้ค่ะ
...........................................................................
cr:http://languagelearningbase.com/

Sunday, June 7, 2015

10 informal words :: คำย่อคูลๆ พูดแบบชิลล์ๆ ::

10 informal words
คำย่อคูลๆ พูดแบบชิลล์ๆ




วันนี้เราเอาใจวัยรุ่น เอาไปใช้อัพ status กันแบบชิคๆ 
ด้วยคำภาษาอังกฤษที่สามารถใช้ได้อย่างไม่เป็นทางการค่ะ

Wanna = Want to (อยากจะ)
Gimme = Give me (ให้...ฉัน)
Gonna = Going to (กำลังจะไป)
Whatcha = What are you doing? (คุณทำอะไรอยู่)
Ya = You (คุณ)
Musta = Must have (ต้องมี)
S'more = Some more (อีกหน่อย)
Lemme = Let me (ให้ฉัน...)
Ain't = Am not, Is not, Are not (ฉันไม่...)
Lotta = Lot of (เยอะแยะ)

คำพูดเหล่านี้เรารู้กันดีอยู่แล้ว
และความหมายก็ไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับบริบทนั้นๆ
เพียงแต่บางทีเราก็สามารถใช้คำใหม่เหล่านี้ ให้เกิดอารมณ์แบบ สบายๆ ชิลล์ๆ
ได้มากขึ้น ใช้เวลาพูดกับเพื่อน พูดไม่จริงจังมากนัก
ก็จะทำให้เป็นสีสันในการใช้ภาษาอังกฤษให้น่าสนใจขึ้นได้ค่ะ

Wednesday, June 3, 2015

คำศัพท์ชวนงง Wake up VS Get up ::ศัพท์ง่ายๆ ที่ความหมายต่างกัน::

คำศัพท์ชวนงง
Wake up VS Get up
คำศัพท์บางคำ อาจดูว่าง่าย แต่ก็ทำให้เราพลาดมาหลายครั้งแล้ว 
ดังนั้นอย่าละเลยศัพท์ที่ดูเหมือนจะง่าย คล้ายกัน 
แต่การใช้แตกต่างกัน ถ้าไม่ระวัง จะทำให้ความหมายผิดเพี้ยนไปเลยน้าาา



เช้าๆ แบบนี้ เราจะมาว่าด้วยการตื่นนอนกันค่ะ

Wake up (เวค-อัพ) = คือการตื่นจากอาการหลับใหล ลืมตาตื่นขึ้นมา 
(หลังจากนั้นอาจเล่นมือถือ หรือจะทำอะไรต่อก็ได้)

To Wake (someone) up = คือการเป็นเหตุให้ใครบางคนตื่นขึ้นมา

อีกคำที่ดูเหมือนจะคล้ายคือ

Get up (เกท-อัพ) = คือการลุกออกจากเตียง (หมดสิ้นอาการเตียงดูด)
นั่นคือหมายความว่าเราได้ลุกออกมาเริ่มต้นกิจกรรม เริ่มต้นวันของเราแล้ว

................................................

ทีนี้มาดูประโยคตัวอย่างเพื่อให้เห็นความต่างมากขึ้นกันอีกค่ะ

Betty: When did you get up this morning?
Greyson: I got up at 11.
Betty: You slept at 11 last night, so you slept for 12 hours?
Greyson: No. I actually woke up at 9, but I just stayed in bed.

เบ็ตตี้ถามแฟนว่าเขาตื่นกี่โมง 
แล้วเธอก็เข้าใจว่าแฟนของเธอหลับไปตั้ง 12 ชม. เชียว (ขี้เซามาก) 
แต่จริงๆ แล้วเขาตื่นตั้งแต่ 9 โมงเช้าแล้ว 
เพียงแต่ตื่นแล้วก็ยังนอนกลิ้งอยู่อย่างนั้น 
ลุกจริงๆ คือตอน 11 โมงต่างหากล่ะ
................................................
Cr. http://languagelearningbase.com/